เป้าหมายทางการเงิน: สร้างความมั่นคง เพิ่มการออมและผลตอบแทนจากการลงทุน
แนวทางตั้งเป้าหมายการเงิน วางแผนการออมและการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงระยะยาว

ทำความชัดเจนกับเป้าหมายทางการเงิน
เป้าหมายทางการเงินทำให้การตัดสินใจเรื่องเงินมีทิศทางชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้าน เก็บเงินฉุกเฉิน หรือเกษียณ การระบุจำนวนบาทและกรอบเวลาแบบชัดเจนช่วยให้วางแผนได้จริงจัง เอาง่ายๆ ตั้งเป้าเป็นตัวเลข เช่น เก็บ 200,000 บาท ใน 2 ปี หรือลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนเฉลี่ย 6% ต่อปี
ใช้หลัก SMART — ระบุได้ (Specific) วัดผลได้ (Measurable) ทำได้จริง (Achievable) สัมพันธ์กับเป้าหมายชีวิต (Relevant) และมีกรอบเวลา (Time-bound) การเขียนเป้าหมายลงสมุดหรือแอปธนาคาร เช่น K PLUS หรือ SCB Easy จะช่วยเตือนและเพิ่มความรับผิดชอบ
สร้างกองทุนฉุกเฉินและแบ่งเงินออม
กองทุนฉุกเฉินคือพื้นฐานความมั่นคง ควรมีเงินสำรองประมาณ 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำตัวเก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่เบิกได้ทันที การมีเงินสำรองช่วยลดความเสี่ยงต้องกู้ยืมเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน
แบ่งเงินเดือนเป็นสัดส่วน เช่น 50% ค่าใช้จ่าย 20% ออม 20% ลงทุน 10% สนุกหรือพัฒนาตัวเอง การตั้งระบบโอนอัตโนมัติไปยังกองทุนรวม หรือบัญชีเงินออมช่วยให้การออมกลายเป็นนิสัยและไม่ต้องพะวงทุกเดือน
ลงทุนอย่างมีแผนและรู้จักความเสี่ยง
การลงทุนไม่ใช่การพนัน แต่เป็นเครื่องมือเพิ่มผลตอบแทนที่เอื้อให้เป้าหมายสำเร็จ เลือกสินทรัพย์ให้สอดคล้องกับระยะเวลาและความเสี่ยง เช่น กองทุนหุ้นสำหรับเป้าระยะยาว กองทุนตราสารหนี้หรือบัญชีฝากประจำสำหรับระยะสั้น
คนไทยควรพิจารณากองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง RMF/SSF เพื่อประโยชน์ภาษีและการกระจายความเสี่ยง จัดสรรพอร์ตอย่างสมดุลและทบทวนทุก 6 เดือน
ติดตาม ปรับปรุง และลงมือทำวันนี้
การตั้งเป้าหมายแล้วไม่ติดตามเท่ากับยังไม่เริ่ม ใช้แอปติดตามการเงินหรือสเปรดชีตเพื่อดูความคืบหน้า ทบทวนเป้าทุกไตรมาสและปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น เปลี่ยนสัดส่วนลงทุนเมื่อมีรายได้เพิ่มหรือค่าใช้จ่ายเปลี่ยน
ลงมือทีละขั้น เริ่มจากการตั้งเป้าระยะสั้น สร้างกองทุนฉุกเฉิน แล้วค่อยขยับไปลงทุน ระหว่างทางเรียนรู้เรื่องค่าธรรมเนียม ภาษี และพฤติกรรมการใช้จ่าย ถ้าต้องการความชัวร์ ปรึกษาที่ปรึกษาการเงินหรือใช้บริการของธนาคารเพื่อวางแผนแบบเฉพาะบุคคล เริ่มวันนี้เพื่อความมั่นคงทางการเงินที่ยั่งยืน