loader image

หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่จำเป็นด้วยเทคนิคการเงินส่วนบุคคลที่ใช้ได้จริง

วิธีตั้งงบประมาณ ลดรายจ่าย และจัดการหนี้อย่างเป็นระบบเพื่อความมั่นคงทางการเงิน

วางแผนงบให้ชัด

เริ่มจากบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นบาทจริงๆ ทุกเดือน แยกหมวดชัดเจน เช่น ค่าเช่า ค่าเดินทาง (BTS/MRT/มอเตอร์ไซค์รับจ้าง) ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน การเห็นตัวเลขจะช่วยหยุดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยโดยไม่รู้ตัว.

ตั้งกฎง่ายๆ ที่ทำตามได้ เช่น แบ่งเงินเป็นสัดส่วน 50/30/20 ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ไทยโดยอาจแปลงเป็นเก็บออมขั้นต่ำ 10% และโอนอัตโนมัติผ่านแอปธนาคารหรือพร้อมเพย์ เพื่อให้การออมเป็นเรื่องอัตโนมัติไม่ต้องพะวง.

ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

สำรวจค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่บวกกันเป็นก้อน เช่น ของกินจาก 7-Eleven สตรีมมิ่งหลายแพ็กเกจ หรือค่าสมาชิกที่ไม่ได้ใช้ ตัดหรือแชร์กับเพื่อน/ครอบครัวเพื่อลดภาระได้ทันที.

วางแผนช้อปปิ้งช่วงเทศกาลอย่างรอบคอบและอย่หลงกับโปรผ่อน 0% หากไม่จำเป็น ใช้รายการซื้อของ และตั้งงบจำกัดสำหรับของฟุ่มเฟือย จะช่วยให้เงินไม่ไหลออกโดยไม่รู้ตัว.

ควบคุมการใช้บัตรเครดิตและการผ่อน

บัตรเครดิตสะดวกแต่มีดอกเบี้ยและค่าปรับถ้าผ่อนจ่ายแบบหมุนเวียน หลีกเลี่ยงการใช้บัตรในการจ่ายรายวัน หากต้องใช้ ให้จ่ายเต็มเมื่อถึงรอบบัญชีหรือเลือกบัตรที่มีดอกเบี้ยและโปรโมชันเหมาะสมกับคุณ.

ระวังกับโปรโมชั่นผ่อน 0% ที่อาจมีค่าธรรมเนียมแฝง อ่านสัญญาให้ครบก่อนเซ็น หากมีหลายหนี้ ลองคงใช้บัตรเพียงใบเดียวเพื่อลดความยุ่งยากและติดตามยอดคงเหลือง่ายขึ้น.

จัดการหนี้อย่างเป็นระบบ

ทำแผนชำระหนี้แบบเป็นขั้นเป็นตอน เช่น วิธีลูกบอลหิมะ (เคลียร์หนี้เล็กก่อน) หรือวิธีน้ำตก (จ่ายหนี้ดอกเบี้ยสูงก่อน) เลือกแบบที่ทำได้จริงและรักษาวินัยการชำระเงินทุกงวด.

หากดอกเบี้ยสูง ให้พิจารณารีไฟแนนซ์บัตรหรือสินเชื่อจากธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า หรือติดต่อธนาคารเจรจาต่อรองเงื่อนไขได้ หลักสำคัญคือสร้างเงินสำรองฉุกเฉิน 3-6 เดือน และเริ่มลงมือทันที เช่น ทบทวนค่าใช้จ่ายเดือนล่าสุดแล้วโอนอย่างน้อย 10% เข้าบัญชีออมทรัพย์เพื่อความมั่นคงทางการเงิน.